วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2554

วันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ แพ็กถุง สังฆาภิบาล ที่จุฬาฯ

วันนี้เป็นวันที่สองที่ผมตั้งใจจะไปแน่นอน รีบตื่นอาบน้ำกินข้าวตั้งแต่ ๙.๐๐ น. เตรียมยาเตรียมเงิน แล้วถามพี่สะใภ้ว่าไปส่งให้ถึงจุฬาฯหน่อย อยากไปจิงๆ แกก็ไปส่งให้ใช้เวลา ๑๐ นาทีก็ถึงไปถึง ๑๐.๐๐ น.เขาเพิ่งรวมตัวอาสาสมัครมีน้องๆจากโรงเรียนสายน้ำผึ้งมาคณะนึงด้วย สักพักก็แบ่งกลุ่มอาสาสมัครเป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มเดินรับของและกลุ่มนั่งผูกถุง เหมือนเดิม วันนี้เป้าหมาย ๘๐๐๐ ถุง โดยแบ่งเป็น ๔ ช่วงๆละ ๒,๐๐๐ ถุง เขากำหนอช่วงเช้า ๒,๐๐๐ ถุงแรกเสร็จ แล้วพักกินข้าว ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเตรียมข้าวให้กินด้วย สบายไป เริ่มมัดถุงตอนช่วงเช้าโดนเชือกบาดนิ้วเลือดไหลเลยแต่ก็มัดต่อได้ เรื่องจิ้บๆ (ที่รู้เพราะเชือกสีขาว) พอครบ ๒,๐๐๐ ถุงเขาก็ให้พักกินข้าว แต่ผมยังไม่หิว ก็เลยลุกขึ้นมานั่งเล่นสักพักแล้วก็มีคนใจดีตักกะเพราไข่ดาวมาให้ผมก็นั่งสบายเลย กินเสร็จกินยาตาม นั่งพักรออีกครึ่งชั่วโมงแน่ะ เหงาเป็นบ้าเลย เพราะส่วนมากเขามาเป็นกลุ่ม สองสามคนขึ้นไป จนถึงเวลาเริ่มตอน ๑๓.๐๐ น.ก็นั่งผูกเชือกต่อจนเสร็จ ๒,๐๐๐ ถุง ก็พักครึ่งชั่วโมงจนรอบสุดท้ายจะ ๑๗.๐๐ น. นักเรียนจากโรงเรียนสายน้ำผึ้งกลับไป ก็ขาดคนผูกเชือกไปหลายคน แต่ก็ทำต่อ ใช้เวลาทำรอบสุดท้ายชั่วโมงเดียวก็เสร็จ ครบ ๘,๐๐๐ ถุง คนก็ทยอยกลับ บ้างก็ถ่ายรูปกันผมไม่มีกล้อง ก็เลยขอยืมพี่ท่านนึงถ่ายให้แล้วส่งทางเฟสให้ พี่ท่านนั้นก็ใจดีถ่ายรูปส่งให้ ระหว่างที่คนเดินออก ผมก็โทรหาพี่สะใภ้ซึ่งแกบอกจะมารับ แต่โทรไปแกไม่รับ (แกบอกไปงานศพ) จะเดินออกจากห้อง เขาก็ประกาศมีข้าวใหกิน ก็เลยเดินกลับไปกินฟรีจะได้กินยาด้วย พอกินเเสร็รเดินจะออกจากจุฬาฯก็มีอาสาฯชาวพม่าพูดไม่ชัดที่เห็นในงานขี่จักรยานมาชวนซ้อนท้ายก็เลยนั่งไป แต่ไปได้นิดหน่อยก็ล้ม เจ็บเข่าเลยพอลุกขึ้นมา อาสาฯคนนั้นเดินมาจับแขน โห กลิ่นเบียร์คลุ้งเลย ผมเลยขอเดินเอง แต่แกก็คะยั้นคะยอให้ซ้อนท้าย แถมเอาไม้เท้าผมไปอีก ซวยเลยสิ ก็ซ้อนไปกะเขา ไปได้หน่อย ล้มอีก ผมเป็นแผลที่เข่าสามที่เลย ไอ้บ้าเอ้ย ยังไม่พอ ยังล็อกแขนให้นั่งอีก ไม่รู้ทำยังไง มันขับพาไปฝั่งตรงข้ามละ ส่ายไปส่ามมา ไม่ไหวละ ขืนนั่งต่อมีหวังตายแน่ถ้าออกถนน ผมบีบไหล่มันให้มันหยุดแล้วลงเดิน เจ็บเข่า มันก็มาล็อกแขนพาเดินไปฝั่งสวนหลวง มันบอกไปหานายมันจะให้ไปส่ง เดินซะเร็ว ผมบอกช้าๆมันก็เดินซะเร็วอีก ไอ้ฟาย สรุปพอไปหานายมันใครไม่รู้ผู้หญิง ด่ามันใหญ่เลย แล้วเรียกสามล้อให้ผมกลับบ้าน ผมเลยได้รู้เลยว่าที่ไหนมีของฟรี บางทีก็มีคนไม่ดีมาร่วมด้วย (เพราะที่นั่นมีข้าวให้กินฟรี ไงครับ แถมใครไปก่อนก็ได้เสื้อฟรีอีก) นี่เป็นวันที่สองถึงจะระบมเพราะไอ้คนเมานั่นผมก็ยังไปในวันพุ่งนี้อีก ติดตามต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น